เรื่องเครื่องเล่นจานเสียง นี่แหละ ตัวพ่อเลย คุณ “พิทักษ์ พยัพเดช” มันอยู่ในสายเลือด

โดย...อ. ไมตรี ทรัพย์เอนกสันติ

ขอทราบความเป็นมาเป็นไปของการเข้าสู่วงการเครื่องเล่นจานเสียงหน่อยครับ

                ผมขายเครื่องเสียงค่อนไปทางระดับไฮเอนด์ทั้งใหม่และเก่ามาตั้งแต่ 12 ปีที่แล้ว ก็พบว่า มันอยู่รอดยาก และน่าจะดีกว่าถ้าเราทุ่มเทโฟกัสไปที่เครื่องเล่นจานเสียงอย่างเดียวโดดและตัวเองก็ชอบด้วย ก็เลยสั่งเครื่องเล่นจานเสียง Project จากนอกเข้ามาขาย ต่อมาหลุดไปอยู่ที่ผู้นำเข้าอื่น ผมก็เลยผันตัวเป็นตัวแทนขายปลีก

คุณ พิทักษ์ ยึดมั่นเครื่องเล่นจานเสียงยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่งไหมครับ

                ผมอยากขายทุกๆ ยี่ห้อครับ คือ จริงๆ เราอยากทุ่มสุดตัวในการเป็นผู้ที่คร่ำหวอด เชี่ยวชาญด้านนี้โดยเฉพาะมากกว่า คือถนัดการบริการมากกว่าเน้นขายเองครับ

สถานการณ์ของวงการผู้ขายเครื่องเล่นจานเสียงปัจจุบันเป็นอย่างไรครับ

                คือผมขอแบ่งเป็นแต่ละระดับนะครับ

                พวกรุ่นประหยัด แบบมือใหม่หัดขับ จะเป็นเครื่องเล่นจานเสียงแบบเอาพอดัง เล่นได้ ไม่พิถีพิถันอะไร ลูกค้าจะไปซื้อตามร้าน IT ทั่วไป หรือร้านขายแผ่น CD/DVD/Bluray/แผ่นเสียง(LP) บางแห่ง ไม่ใช่ร้านประเภทชำนาญโดยเฉพาะ ลูกค้านั้นมีไว้ให้ครบๆ ไว้ฟังแผ่น LP เก่าเก็บดีกว่าทิ้งเปล่า

                รุ่นกลางๆ ลงล่าง (วงเงินค่าเครื่อง ต่ำกว่า 3-4 หมื่นบาทลงมา) ระดับนี้การแข่งขันจะสูง ตัดราคากันมาก ขายแล้วแทบไม่เหลือกำไร

                รุ่นกลางบน (ตั้งแต่ 5 หมื่นขึ้นไป) ลูกค้าจะมุ่งมาที่ร้านที่เน้นทางนี้โดยเฉพาะ อย่างร้านของผม คือเขารู้จักของดี ของคุณภาพ ฟังเป็น

                รุ่นแพงๆ ระดับบน (ตั้งแต่ 1-5 แสนบาทขึ้นไป) ผู้นำเข้ามักจะกั๊กไว้ขายเอง ยืดหยุ่นในเรื่องราคาสูง จนเราสู้ไม่ได้ ทั้งเงื่อนไข ราคา ทางรอดของเราคือขอตัดทำแต่ผู้เดียวเป็นบางรุ่น จึงจะพอมีกำไรบ้าง

พวกเครื่องเล่นจานเสียงที่ราคาสูงลิบลิ่ว เป็นหลายๆ แสนบาท หรือนับล้านบาท หลายๆ ล้านบาท มันคุ้มค่าขนาดนั้นหรือครับ

                ยกตัวอย่างนะครับ เครื่องเล่น 2 ล้านบาท ฟังออกครับว่าดีกว่า 4-5 แสนบาท ถ้าราคาสูงกว่า 2 ล้านบาท ผมยังไม่มีโอกาสได้ฟัง ถ้าเป็นยี่ห้อเดียวกัน ยกตัวอย่าง VPI ทุกระดับที่เขยิบแพงขึ้นๆ มันก็ดีขึ้นๆ ฟังออกครับ การเปรียบเทียบต่างยี่ห้อ จะมีตัวแปรอื่นๆ ที่เป็นตัวกำหนดราคา เช่น ความดังของแบรนด์ ค่านิยม ฯลฯ ทำให้การเปรียบเทียบแทบจะเป็นไปไม่ได้

ระหว่างตัวเครื่องเล่น หัวเข็ม อาร์ม คุณพิทักษ์ให้ความสำคัญไล่เรียงกันไปอย่างไรครับ

                ถ้าราคาไม่สูงลิบโลก เครื่องเล่น+อาร์ม(ผนวกกัน) มีผลมีความสำคัญอันดับ 1 ภาคปรี PHONO มาอันดับ 2 หัวเข็ม มาอันดับ 3 ถ้าคิดรวม หัวเข็ม + ภาคปรี PHONO ผมให้ความสำคัญเป็น 30% กับ 70% ตามลำดับ

คุณพิทักษ์มีความเห็นอย่างไรต่อเครื่องเล่นจานเสียงระบบต่างๆ

                เครื่องที่ตัวแท่น กลไก หนักโคตร จะให้น้ำหนักเสียงดี อย่างไรก็ตาม เมื่อเสียงอิ่มแน่นหนัก ภาคปรี PHONO ก็ต้องรองรับการสวิงแรงๆ เข้ามาได้ ไม่อย่างนั้นเสียงจะทึบ อย่างไรก็ตาม ระบบนี้จะให้การตอบสนองเสียงที่ฉับไว กระแทกกระทั้นดี

                เครื่องที่หนักปานกลาง จะหาภาคปรี PHONO เข้าง่าย เสียงจะออกมาแบบกลางๆ ไม่สุดโต่งทั้งด้านทุ้มและแหลม ไม่เร้าใจแต่ก็ไม่ขี้เหร่

                เครื่องระบบเบาะอากาศ การกระแทกกระทั้นจะอ่อนไปหน่อย แต่ก็ให้เสียงเกลี้ยงสะอาด บรรยากาศสงัดดี รายละเอียดหยุมหยิมดี ไหลลื่น แต่ไม่ตูมตามนัก

                เครื่องระบบเบาะสนามแม่เหล็ก จะคล้ายๆ เบาะอากาศ

                ระบบสปริงลอยตัว ก็คล้ายๆ กับเบาะอากาศกับเบาะแม่เหล็ก แต่ไม่สงัดสะอาดเท่า ถ้าเป็นมือใหม่ แนะนำระบบแท่นแข็งธรรมดา ไม่ต้องพะวงกับการจูนลม จูนสปริง ซึ่งไม่ง่ายเลย

                ระบบอาร์มวิ่งตรง (LINEAR TRACKING) ตามหลักการแล้ว มันควรจะดีที่สุด เพราะอาร์มวิ่งตั้งฉากกับเส้นรอบวงของร่องจานเสียงตลอดเวลา แต่ในทางปฏิบัติการติดตั้ง จูนยากมากๆ เต็มไปด้วยตัวแปรทุกแง่มุมกันเลย โอกาสที่จะเละมีมากกว่าดี

                ระบบมอเตอร์หมุนจานตรง (DIRECT DRIVE) สมัยก่อนคนรังเกียจและว่าสู้ระบบสายพานไม่ได้ นั่นป็นเพราะสมัยนั้นมอเตอร์ยังไม่ดีพอคือมันไม่นิ่งจริง แต่ยุคนี้ มอเตอร์นิ่งขึ้นมาก จึงเหลือแต่ข้อดีของระบบนี้คือ แรงฉุดสูง ความเร็วคงที่ อย่างไรก็ตาม ถ้าเสียงมาแบบรุนแรงโหดๆ อาจฟังกร้าวไปหน่อย

                ระบบสายพาน (BELT DRIVE) จุดอ่อนคือ รักษาความเร็วให้เที่ยงตรงได้ยาก จะแกว่งไปมา จึงจะได้เสียงที่ไม่กระแทกกระทั้น อาจฟังเผินๆ ดูสุภาพ อ่อนโยน ผ่อนคลาย

                ระบบลูกยาง (RIM DRIVE) โดยใช้มอเตอร์หมุนลูกยางแล้วไปพาตัวจานหมุนตาม ระบบนี้ใช้หลักการลดจุดสัมผัสกับจานให้เหลือน้อยที่สุด การสั่นจากมอเตอร์ที่จะไปถึงจานก็จะต่ำสุด เดี๋ยวนี้ระบบนี้พัฒนาไปถึงระดับไฮเอนด์ แยกมอเตอร์กับแท่นเป็นอิสระภายนอก และหมุนแผ่นกลมขอบยางที่จะไปหาตัวจานหมุนอีกที

ภาคปรี PHONO มีผลขนาดไหนครับ

                มีผลมากครับ ถ้าไม่เกี่ยงงบและกะให้ใช้ได้ทุกหัวเข็ม กล่องภาคปรี PHONO ควรตั้งงบไว้ไม่น้อยกว่า 5 หมื่นบาทครับ

อาร์มนี่มีผลอย่างไรครับ

                อาร์มยิ่งยาวยิ่งยืด ไม่ว่าแบบตรงหรือแบบตัวเอส (S) ยิ่งดี คือยิ่งยาว ยิ่งยืดโค้ง TRACKING ERROR (การกินร่องซ้าย-ขวาที่ไม่เท่ากัน) จะยิ่งน้อย หางเสียงจะไปยาวไม่หดห้วน เหมือนตัวแท่น พบว่า ยิ่งใหญ่ หางเสียงยิ่งทอดยาว

ถ้าจะแนะนำนักเล่นหน้าใหม่ที่ค่อนข้างพิถีพิถันคือฟังเป็น แต่งบไม่สูงจัด คุณพิทักษ์จะแนะนำยี่ห้อ รุ่นไหน ทั้งตัวเครื่องและหัว

                อยากให้ตั้งงบตัวแท่น+อาร์ม สักประมาณ 5 หมื่นบาทบวก-ลบ ส่วนหัวเข็มสัก 1.5 หมื่นบาท คืองบขนาดนี้จะให้อะไรๆ ค่อนข้างเติมเต็มทุกแง่มุมได้ ไม่รู้สึกอึดอัด จะยี่ห้อไหน ขอมาคุยกันเพราะบางคนชอบที่หุ่นด้วย

                เรียนตรงๆ ว่า เรื่องเครื่องเล่นจานเสียงนะมันดีหมดแหละ ถ้าปฏิบัติต่อมันอย่างถูกต้อง ตีบทแตกทั้งข้อดีข้อเสีย รู้วิธีบาลานซ์ให้ลงตัวกับการจูนอย่างละเอียด ตรงสไตล์เสียงที่ลูกค้าต้องการ

การปรับแต่ง (SET UP) มีผลแค่ไหน ผู้บริโภคจะทำเองได้ไหมครับ

                มันไม่ยาก เปิดอินเตอร์เน็ตเข้ากูเกิ้ลเขามีบอก 5-6 ขั้นไว้หมด แต่ต้องมีเครื่องมือ ความรู้ ที่สำคัญคือประสบการณ์ ถ้าไม่เคยมาก่อนเลย ผมว่าให้นักปรับจูนเขาจัดให้ก่อน แล้วเราจะมาต่อเติมอีกเล็กน้อยให้ถูกใจถูกหู อย่างนี้จะง่ายและเป็นไปได้มากที่สุด อย่างที่ร้านผม ยินดีเปิดเผย สอนวิธีให้หมด ไม่ปิดบัง แม้แต่เครื่องมือวัดการปรับแต่งของแต่ละสำนักก็ยังต่างกัน มันก็ใช้ได้หมด อยู่ที่ว่าสำนักนั้นๆ เขาเน้น เขาชอบเสียงในแนวไหน

                บางครั้ง ช่างเดิมเขาก็จูนเสียงตามใจ(หู)ลูกค้า พอมาให้ช่างใหม่จูน ก็อาจเข้าใจผิดว่าช่างเดิมจูนมาผิด จริงๆ ไม่มีใครผิดใครถูก ทุกคนก็อยากจะทำให้ดีที่สุดตามใจลูกค้าทั้งนั้นครับ

แผ่นเสียงที่มีการปั๊มขายกันใหม่ (RE-ISSUE) เป็นอย่างไรครับ เทียบกับแผ่นดั้งเดิมยุคก่อนๆ

                ต้องขออภัย ขอออกตัว แผ่นประเภท RE-ISSUE ผมแทบไม่มีโอกาสได้ฟังครับ

เครื่องเล่นจานเสียงของเก่ากับใหม่แกะกล่อง ไหนน่าเล่นกว่ากันครับ

                ผมว่าซื้อได้หมด ของใหม่ ของเก่า ต่อให้ยี่ห้อเดียวกัน ต่างยุคกัน บุคลิกของเสียงที่ได้มักต่างกัน น่าจะมาจากการใช้วัสดุที่ต่างกัน สมัยเก่าอาจทำมาเพื่อเข้ากันได้ดีกับแผ่นสมัยโน้น เครื่องรุ่นใหม่ ทำมาสำหรับแผ่นสมัยนี้

                คือ เครื่องเล่นจานเสียงมันเป็นระบบกลไก อนาลอกที่จับต้องได้ทุกชิ้น เราดัดแปลง แก่ไข หาอะหลั่ย ปั้นอะหลั่ย ทำได้หมด คือ RE-BUILT ได้ เหมือนรถยนต์ ไม่เหมือนเครื่องเล่นระบบดิจิตอล ที่เป็นโปรแกรม จับต้องไม่ได้ กระดิกอะไรไม่ได้ ถ้าเราไม่ใช่คนเขียนโปรแกรมเอง

ปัจจุบัน ผู้เล่นแผ่นเสียงมีอายุเท่าไรบ้าง หรือมีแต่คนแก่วัยเกษียณ

                เชื่อไหมครับ แฟนจานเสียงปัจจุบันเป็นเด็กรุ่นใหม่ วัยเรียนก็เยอะ ไม่ใช่เฉพาะเรื่องของคนแก่

สำหรับท่านที่สนใจ อยากหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องเล่นจานเสียง อาร์ม หัวเข็ม การจูน สอบถามคุณพิทักษ์ ได้ที่เบอร์ 084-8149011 ท่านพร้อมและยินดีให้คำปรึกษาอย่างถ่องแท้จริงใจ ร้านท่านคือ “สวนเสียง” ชั้น 3 ศูนย์การค้าฟอร์จูนทาวน์ แถบกลุ่มเครื่องเสียง รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ผ่านด้านหน้า(สถานีพระราม 9)